วานนี้ (1 ธ.ค.) ตำรวจสน.โชคชัย ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกรุมทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตภายในร้านสะดวกซื้อแฟมิลี่มาร์ท สาขาลาดพร้าว 85 อยู่ติดปากซอยลาดพร้าว 85 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ ในที่เกิดเหตุพบ นาย Sai san อายุ 19 ปี สัญชาติเมียนมาร์ อยู่บริเวณหน้าประตูทางเข้าภายในร้าน โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นผู้ตายมีลายสักที่แขนซ้ายและลำคอซ้าย มีบาดแผลขนาดใหญ่ ที่ช่องท้องมีอวัยวะภายในไหลออกมา มีบาดแผลถูกฟันที่ศีรษะ และถูกทุบตีหลายแห่ง
จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า
ผู้ตายวิ่งหนีผู้ชายสองคนมาจากริมถนนฝั่งตรงข้ามบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ลาดพร้าว แล้วมาถูกรุมทำร้ายบริเวณหน้าร้านแฟมิลี่มาร์ท ก่อนจะวิ่งเข้ามาหลบในร้านในสภาพได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นทางกู้ชีพจึงพยายามให้การช่วยเหลือแต่ก็ไม่มีผลผู้ได้รับบาดเจ็บเสียชีวิต
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำพยานไปสอบสวนอย่างละเอียด และตรวจสอบกล้องวงจรปิดหาตัวคยร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยมีรายงานว่า ในย่านลาดพร้าว โดยเฉพาะบริเวณโดยรอบห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีลาดพร้าว มักมีกลุ่มวัยรุ่นสัญชาติเมียนมาร์ไล่ทำร้ายกันอยู่เป็นประจำและมีชาวพม่าเสียชีวิตจากเหตุนี้มาแล้วหลายราย
วันนี้ (30 พ.ย.) ที่บ้านของครูเอ็มใน อ.สรรพยา จ.ชัยนาท โดยครอบครัวของครูเอ็มนั้น สภาพจิตใจยังอยู่ในอาการโศกเศร้า เพราะต้องสูญเสียคนในครอบครัวไป ส่วนบรรยากาศงานศพ ทางญาติกำลังจัดเตรียมงาน เพราะเพิ่งไปรับศพ มาถึงบ้านพัก เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งจะทำการตั้งสวดอภิธรรมศพ 5 คืน และจะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 6 ธ.ค.
ด้าน นายสมาน สุภภานิชย์ อายุ 64 ปี พ่อของ ครูเอ็ม เปิดเผยว่า ตนทราบข่าวที่คนร้ายถูกจับแล้วเมื่อเช้าของวันนี้ และรู้สึกดีใจที่ตำรวจทำงานกันอย่างรวดเร็ว ตนได้รีบมาเคาะโลงศพบอกลูกชายทันที ที่ได้รู้ข่าว ถึงอย่างไรก็ตาม ขอให้ศาลลงโทษฆาตกรใจอำมหิตรายนี้ให้ถึงขั้นประหารชีวิต ตามผลกรรมที่ก่อไว้
ส่วน นางประเชิญ สุภานิชย์ อายุ 62 ปี แม่ของครูเอ็ม เล่าว่า ลูกชายเป็นคนที่มีจิตใจดี ร่าเริงแจ่มใส ไม่เคยมีเรื่องกับใคร ถ้าเจอตัวคนร้าย อยากจะขอถามว่า ‘ทำลูกทำไม ทำคนไม่มีทางสู้ทำไม ชีวิตคนดีๆคนหนึ่งทำไมต้องมาตายเพราะคนอย่างนี้ด้วย’ และตนอยากให้ศาลลงโทษประหารชีวิตเท่านั้น เพราะชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต
คืบหน้าคดีพบศพ นายอโลชา สุภานิชย์ หรือ ครูเอ็ม อายุ 33 ปี และ น.ส.ปรียาภรณ์ เพียรงาม หรือ ครูแนน อายุ 33 ปี สองสามีภรรยาภายในบ้านพัก ต.ทับมา อ.เมืองระยอง จ.ระยอง สภาพศพมีบาดแผลแทงบริเวณร่างกายและศีรษะ พบมีดตกในที่เกิดเหตุ ต่อมาวันที่ 29 พ.ย. พนักงานสอบสวน สภ.เมืองระยอง ได้ขออนุมัติหมายจับ นายศุภกฤต สุจาสี อายุ 22 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ ผู้ต้องหาฆ่าครูเอ็มและครูแนน ในข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนเพื่อชิงทรัพย์ โดยพฤติการณ์คือทำทีมาขอดูบิ๊กไบก์ดูคาติที่ครูเอ็มประกาศขายก่อนฆ่าสองสามีภรรยา แล้วขับรถบิ๊กไบก์หลบหนีไป
คืบหน้าล่าสุด ข่าวช่องวัน รายงาน ตำรวจสามารถจับตัว นายศุภกฤต สุจาสี ได้แล้วที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ขณะกำลังหลบหนีออกประเทศเพื่อนบ้าน ด้าน เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานผลชันสูตรศพ พบกระสุนฝังอยู่ คาดเหยื่อโดนยิงก่อนโดนมีดแทง
ทอมราดทินเนอร์-จุดไฟเผาแฟนทั้งเป็น บาดเจ็บสาหัส
เมื่อวันที่ 28 ที่ผ่านมา เกิดเหตุทอมจุดไฟเผาแฟนสาวใหญ่จนบาดเจ็บสาหัส โดยตำรวจสน.พระโขนง ได้เข้าไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุที่บ้านหลังหนึ่ง ชุมชนดาราฉาย ซอยอ่อนนุช 46 แขวง สวนหลวง แขวงสวนหลวง กทม.
ในที่เกิดเหตุพบ นางวรวรรณ จัดสวย หรือบัว อายุ 51 ปี นอนร้อง ครวญคราง เนื่องจากถูกไฟคลอกตามร่างกายไปกว่า 70% ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งนำตัวไปรักษาที่ รพ.สิรินธร และได้จับกุมตัว นางมาลัยทอง ทองทักษิณ หรือเรไร อายุ 48 ปี ผู้ก่อเหตุไปสอบปากคำที่สน.พระโขนง
จากการสอบถามนางจินตนา เกิดแก้ว อายุ 45 ปี ฝ่ายประชาสัมพันธ์ชุมชนดาราฉาย ทราบว่า ทั้งสองอยู่กินแบบสามีภรรยามานานหลายปีแล้ว มีอาชีพขับรถเร่ขายอาหาร ย่านบางแค ซึ่งปกติทั้งคู่มักดื่มสุรากันเป็นประจำและมักมีปากเสียงถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันอยู่บ่อยครั้ง
ตนได้ยินเสียงร้องดังลั่นผิดปกติจึงรีบออกมาดูเห็น นางวรวรรณ มีไฟลุกท่วมตามร่างกายจึงตะโกนขอความช่วยเหลือดับไฟใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้ามาดำเนินการ โดยพบกระป๋องน้ำมันทินเนอร์ตกอยู่คาดว่าจะเป็นการใช้ราดตัวก่อนจุดไฟเผา
ตำรวจได้นำตัว นางมาลัยทอง ไปรักษาตัวที่รพ.ตำรวจ เนื่องจากถูกไฟลวกบริเวณ มือและเท้า ทั้ง 2 ข้าง ส่วนนางวรวรรณ พักรักษาตัวอยู่ห้องไอซียู รพ.สิรินธร เตรียมส่งตัวไปรักษาต่อ รพ.พระมงกุฏเกล้า ส่วนการแจ้งข้อหานั้นจะต้องสอบปากคำพยานแวดล้อมให้ครบถ้วนก่อน
แม่จะโอบกอดและยืนเคียงข้างเป็นกำลังใจให้ลูกเสมอเหมือนกับทุกครั้งที่ลูกต้องจ่ายราคาที่ต้องจ่ายเพื่อประชาธิปไตย ยิ่งครั้งนี้ลูกได้ยินว่าแม่ต้องตัดสินใจร่วมเดินทะลุฟ้ากับพี่ไผ่ ลูกดีใจเป็นพิเศษเพราะลูกได้รู้ว่าในขณะที่ลูกกำลังต่อสู้อยู่ข้างในแม่ก็ไม่ได้ทอดทิ้งลูกและยังร่วมต่อสู้ไปกับลูกอยู่ข้างนอก ด้วยเหตุนี้ลูกจึงมีแรงกายแรงใจที่จะฝ่าฟันบทพิสูจน์ขนาดหัวใจ ที่ลูกต้องเผชิญไม่ว่าจะยาวนานเพียงใดลูกจะยังยืนหยัดต่อสู้อย่างท้าทนงเพื่อยืนยันในหลักการที่ว่า แผ่นดินนี้เป็นของประชาชนทุกคนมิใช่สมบัติส่วนตัวของบุคคลใดและจะไม่มีสถาบันใดยิ่งใหญ่ไปกว่าสถาบันประชาชน
แนะนำ : รีวิวหนังไทย | คู่มือพ่อแม่มือใหม่ | แม่และเด็ก | เรื่องผี | แคคตัส กระบองเพชร